แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังต้องรอเช็คอาการของ โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ หลังจากได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยในช่วงฝึกซ้อม ในขณะที่แกรี่ เนวิลล์ ก็ยังไม่มีชื่อลงสนามในนัดนี้ แม้จะหายเจ็บกลับมา และสามารถลงเล่นในทีมสำรองได้แล้วก็ตาม
ด้านนิวคาสเซิล อาจได้ตัว โอบาเฟมี่ มาร์ตินส์ มาลงเล่นให้กับทีม หากทีมชาติไนจีเรีย ยอมปล่อยตัวออกมา รวมทั้ง สตีเฟ่น คาร์ ที่อาจมาลงเล่นให้กับทีมได้ ในขณะที่ ฮาบิบ เบย์, อับดุลลาเย เฟย์ และ เฌเรมี่ ต่างก็ต้องไปเล่นให้ทีม
ข้อมูลของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจขยับขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งจ่าฝูงพรีเมียร์ ลีก ได้หากเอาชนะนิวคาสเซิล ได้ในนัดนี้ และนั่นก็จะเป็นชัยชนะในบ้านนัดที่ 11 ในฤดูกาลนี้
ทางด้านนิวคาสเซิล หลังจากที่เสมอกับ สโต๊ค ในศึกเอฟเอ คัพ แบบไม่มีประตู หากพวกเขาแพ้ในนัดนี้ก็จะเป็นความพ่ายแพ้นัดที่ 4 ติดต่อกันในพรีเมียร์ ลีก ซึ่งถือว่าเป็นฟอร์มการเล่นที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2005
นิวคาสเซิล ยังไม่เคยเก็บชัยชนะได้ใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด นับตั้งแต่มีพรีเมียร์ ลีก และพวกเขาก็ไม่เคยเก็บคะแนนเต็มออกไปจากโรงละครแห่งความฝันมา 36 ปี แล้ว
ฟอร์มของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
อยู่อันดับที่ 2 มี 48 คะแนน
ชนะ 6 และแพ้ 1 ในพรีเมียร์ ลีก 7 นัดหลังสุด
เป็น 1 ใน 2 สโมสรที่เก็บชัยชนะได้มากที่สุดถึง 15 นัดในฤดูกาลนี้ อีกทีมหนึ่งก็คืออาร์เซนอล
ไม่เสียประตูถึง 12 เกมซึ่งมากกว่าทุกทีม และมีแนวรับที่ดีที่สุดในลีก ด้วยการเสียประตูเพียง 11 ประตูจากทั้งหมด 21 นัด
จากทั้งหมด 21 นัดของพวกเขามีประตูรวม 49 ประตู (ได้ 38 เสีย 11)
ได้จุดโทษมากที่สุดในฤดูกาลนี้คือ 6 ครั้ง และเป็นประตู 4 ครั้ง
ยังไม่เสียประตูจากการลงเล่นในบ้านตัวเอง นับตั้งแต่เสมอกับเรดดิ้ง ในนัดเปิดสนามของฤดูกาลนี้
หลังจากนี้จะไปเยือนเรดดิ้ง และเปิดบ้านรับปอร์ทสมัธ
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
อยู่อันดับที่ 11 มี 26 คะแนน
แพ้ติดต่อกัน 3 นัด ซึ่งมากที่สุดในพรีเมียร์ ลีก เท่ากับทีมอันดับท้ายตารางอย่างดาร์บี้
โดย 3 นัดหลังสุดพ่ายต่อวีแกน, เชลซี และแมนเชสเตอร์ ซิตี้
เป็นทีมที่มีประตูได้เสียติดลบ แต่ก็ยังอยู่ในอันดับที่ดีอยู่ (อยู่อันดับที่ 11 มีประตูติดลบ 6 ประตู)
จากการเล่นนอกบ้านในฤดูกาลนี้เก็บชัยชนะได้เพียง 2 นัด คือชนะโบลตัน และฟูแล่ม
ไม่เสียประตูเพียง 1 นัดจากการเล่นนอกบ้าน 23 นัดหลังสุดในลีก โดยเป็นชัยชนะเหนือฟูแล่ม 0 – 1 ในวันที่ 15 ธันวาคม
หลังจากนี้จะต้องเปิดบ้านพบ สโต๊ค ในเอฟเอ คัพ นัดแข่งใหม่ ตามด้วยการเปิดบ้านรับโบลตัน และไปเยือนอาร์เซนอล ในพรีเมียร์ ลีก
ข้อมูลเกี่ยวกับนักเตะ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คือผู้ทำประตูให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สูงสุดในขณะนี้ด้วยจำนวน 19 ประตู – 13 ประตูในพรีเมียร์ ลีก และนำเป็นดาวซัลโวอยู่ในขณะนี้
โรนัลโด้ ต้องการอีกเพียง 2 ประตูก็จะทำประตูในพรีเมียร์ ลีก ได้ครบ 50 ประตู
เวย์น รูนี่ย์ ทำประตูได้ 7 ประตูจากการพบกับนิวคาสเซิล 8 นัด – 1 ประตูทำให้กับเอฟเวอร์ตัน อีก 6 ประตูทำให้กับแมนฯ ยูไนเต็ด
หากได้ลงเล่นไมเคิล คาร์ริค และพาร์ค จี ซุง จะได้ลงเล่นเป็นนัดที่ 50 ในพรีเมียร์ ลีก ให้แมนฯ ยูไนเต็ด
เวส บราวน์ ติดโทษแบน 1 นัด
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
โอบาเฟมี่ มาร์ตินส์ คือผู้ทำประตูให้นิวคาสเซิล สูงสุดในขณะนี้ด้วยจำนวน 7 ประตู – 6 ประตูในพรีเมียร์ ลีก
หากได้ลงเล่น สตีเฟ่น คาร์ จะได้ลงเล่นในลีก เป็นนัดที่ 300 ของเขา (ลงเล่นให้กับสเปอร์ส และนิวคาสเซิล)
หากได้ลงเล่น สตีฟ ฮาร์เปอร์ จะได้ลงเล่นในลีก เป็นนัดที่ 100 ของเขา
นิคกี้ บัตต์ จะได้พบกับทีมเก่าของเขา ทีมซึ่งเขาลงเล่นให้ 387 นัด และทำประตูให้ทีม 26 ประตู ตั้งแต่มกราคม 1993 จนกระทั่งย้ายไปร่วมเล่นใน เซนต์ เจมส์ พาร์ค ในเดือนกรกฎาคม 2004 ด้วยค่าตัว 2.5 ล้านปอนด์
อลัน สมิธ ก็จะได้พบกับทีมเก่าของเขาเช่นกัน ทีมซึ่งเขาลงเล่นให้ 93 นัด และทำประตูให้ทีม 12 ประตู ตั้งแต่พฤษภาคม 2004 จนกระทั่งย้ายไปร่วมเล่นใน เซนต์ เจมส์ พาร์ค ในเดือนสิงหาคม 2007
สถิติการพบกันทั้งหมด
ในลีก (รวมพรีเมียร์ ลีก) : แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 66, นิวคาสเซิล ชนะ 38, เสมอ 34
ในพรีเมียร์ ลีก : แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 16, นิวคาสเซิล ชนะ 3, เสมอ 9
สถิติการพบกันในบ้านแมนฯ ยูไนเต็ด
ในลีก (รวมพรีเมียร์ ลีก) : แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 42, นิวคาสเซิล ชนะ 9, เสมอ 18
ในพรีเมียร์ ลีก : แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 9, นิวคาสเซิล ชนะ 0, เสมอ 5
ผลการแข่งขันในฤดูกาลที่แล้ว
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 – 0 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
วันที่ 1 ตุลาคม 2006
ผู้ตัดสิน ไมค์ ดีน
ผู้ทำประตูให้แมนฯ ยูไนเต็ด โซลชาร์ น.41, 49
Opal